NAM ING

การลดน้ำหนักแบบไม่เสี่ยงตาย!!!! 1. ลดความหวาน อาหารคาว หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ เช่น ชา กาแฟ น้ำผลไม้ ล้วนแต่มีน้ำตาลแฝงอยู่เป็นจำนวนมาก แนะนำให้ระมัดระวังในการทานอาหารทุกมื้อ ชิมก่อนปรุง หลีกเลี่ยงอาหารรสหวาน และเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นแบบหวานน้อย เช่น สั่งเครื่องดื่มแบบลดความหวาน แนะนำให้ค่อย ๆ ลดปริมาณน้ำตาลลงทีละน้อย ร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวให้ชิน และทานหวานน้อยลงได้ในที่สุด โดยในแต่ละวันร่างกายควรได้รับน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม 2. ลดอาหารประเภทมันหรือทอด การกินไขมันมากเกินไปก็จะเกิดผลเสียกับสุขภาพได้ อาหารผัดต่าง ๆ ที่เห็นตามร้านข้าวแกงล้วนมีปริมาณไขมันที่สูง ส่วนอาหารทอดนั้นเป็นวิธีการทำอาหารที่ใช้น้ำมันปริมาณเยอะ เราจึงควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ และเปลี่ยนเป็นกินอาหารแบบต้ม ตุ๋น นึ่งแทน นอกจากนี้การลดอาหารประเภททอดหรือมีไขมันสูง ยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น โรคความดัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น รวมถึงเป็นการควบคุมน้ำหนักที่ดีอีกด้วย 3. จดบันทึกสิ่งที่กินเพื่อควบคุมปริมาณอาหาร เพราะการกินจุกจิกทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเกินความจำเป็น จึงควรจดบันทึกสิ่งท

  เฟื่องฟ้า   ( ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Bougainvillea ) เป็นไม้ยืนต้นประเภทพุ่มกึ่งเลื้อย ขนาดตั้งแต่พุ่มเล็กถึงพุ่มใหญ่ มีหนามขึ้นตามลำต้นอยู่ ใบเดี่ยว แตกออก สลับกับกิ่ง หรือเยื้องกัน มีขนขึ้นปกคลุมเล็กน้อย มีสีเขียวหรือใบด่าง รูปร่างรีแหลมยาว 3–6 ซม. กว้าง 2–3 ซม. ใบประดับลักษณะคล้ายรูปหัวใจหรือรูปไข่มี 3–5 ใบ มีหลายสี เช่น ม่วง แดง ชมพู ส้ม ฟ้า เหลืองและอื่น ๆ มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและไม่สมบูรณ์เพศ ออกเป็นช่อ ตามซอก ใบหรือปลายกิ่ง แต่ละช่อมี 3 ดอก เป็นหลอดยาว 1–2 ซม. ต้องการแสงแดดจัดในสภาพกลางแจ้ง ได้รับแสงแดดตลอดวัน ถ้าได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจะทำ ให้สีของใบไม่เข้มออกดอกน้อย ต้องการอุณหภูมิ ปานกลางหรือร้อนชื้น เมื่อโตขึ้น ต้องการน้ำปานกลาง ถึงค่อนข้างต่ำ ถ้ารดน้ำมากเกินไปจะไม่ออกดอก ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง, ตอนกิ่ง, เสียบยอด เฟื่องฟ้าถูกค้นพบครั้งแรกใน ประเทศบราซิล โดยนักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศสราว ค.ศ. 1766–1769 และได้ถูกนำไปปลูกยังส่วนต่าง ๆ ของโลก เริ่มจากยุโรป อเมริกาเหนือ และเอเชีย สำหรับในประเทศไทย มีการนำพันธุ์เฟื่องฟ้าเข้ามาจาก สิงคโปร์ ครั้งแรกราว พศ. 2423 ใน สมัยรัชกาลที่ 5 พันธุ

 เรียนยังไงให้เก่ง? สวัสดีค่ะ เราจะมาเล่าประสบการณ์การเรียนของเราตั้งแต่ประถม จนตอนนี้มัธยมปลายแล้ว มีอะไรที่เปลี่ยนไปมาก แต่เราก็มุ่งมั่นจนสำเร็จ เริ่มเลยนะคะ ตอนป.1เราก็เป็นเด็กทั่วไปยังไม่ค่อยรู้จักว่าอะไรเป็นอะไร เล่นส่ะมากกว่าเรียนตอนนั้นเหมือนจะร้องตามแม่ด้วย เด็กขี้แง แต่เกรดเราก็ไม่แย่ ตอนป.2-3เริ่มตั้งใจเรียนขึ้นมาเพราะป.3มีสอบที่ต้องติว เราก็เลยตั้งใจเรียน  ป.4-6ก็ถูๆไถๆยังไม่ค่อยสนใจเรียน แล้วเรามาตั้งใจเรียนจริงๆตอนม.1ค่ะเพราะว่าเราไปสอบรร.ต่างจังหวัด เราก็ติดแต่เป็นห้อง8 เราก็รับได้เราตั้งใจเรียนมากจนทำเกรดได้ดี คะแนนสอบก็ดี ภูมิใจในตัวเองมาก มาบบอกพ่อกับแม่เขาก็มีความสุข เราตั้งใจจะเป็นทันตแพทย์ เราต้องเป็นให้ได้ค่ะ ถ้าเราติดทันตแพทย์เราจะกลับมาอ่านบล็อกนี้อีกครั้ง.

 การที่เราได้ชอบใครมันก็จะติดอยู่ในหัวไม่ลืมสีกที สวัสดีค่ะ เราเคยแอบชอบรุ่นพี่ที่โรงเรียน ครั้งแรกที่รู้จักคือเขารู้จักเราจากพี่ที่รถประจำ แล้วก็คุยๆกันแต่เขาเริ่มบุกเราแรงขึ้นเรื่อยๆเราเริ่มไม่ชอบเพราะเรายังไม่เคยมีแฟนเลยผู้ปกครองไม่อนุญาต มันน่าเศร้านะทุกคน🥹เราก็อยากมีนะแต่อยู่ในขอบเขตอะไรแบบนี้น่ารักๆ 

วัตถุดิบสำหรับทำหน้าสังขยา 1. ไข่เป็ด 2 ฟอง 2. น้ำตาลมะพร้าว 65 กรัม 3. หัวกะทิ 65 มิลลิลิตร 4. ใบเตยมัด 2-3 มัด 5. แป้งข้าวเจ้า 15 กรัม วัตถุดิบสำหรับทำข้าวเหนียวมูน 1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 120 กรัม 2. หัวกะทิ ¼ ถ้วยตวง 3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 4. เกลือป่น ¼ ช้อนชา 5. ใบเตยแก่ 3 ใบ วิธีทำ STEP 1 : ทำข้าวเหนียวมูน - นำข้าวเหนียวที่แกว่งสารส้ม ไปแช่น้ำค้างคืนและล้างจนสะเด็ดน้ำดีแล้ว นำไปนึ่งเป็นเวลา 25 นาที - เทหัวกะทิ น้ำตาล และใส่ใบเตยลงในภาชนะเดียวกัน ใช้ใบเตยขยำน้ำตาลจนละลายเข้ากับกะทิดี ใช้กระชอนหรือผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำกะทิที่ไม่มีใบเตยและเศษต่าง ๆ ทิ้งไป นำกะทิขึ้นตั้งไฟกลางจนเดือดแล้วปิดเตา - ราดกะทิลงบนข้าวเหนียวนึ่งที่ยังอุ่น ๆ และใช้ไม้พายคนให้ส่วนผสมเข้ากันดี แล้ววางทิ้งไว้สักครู่ เพื่อให้ข้าวเหนียวดูดซึมกะทิได้หมด (สามารถดูวิธีทำแบบละเอียดได้ที่นี่เลย วิธีทำ "ข้าวเหนียวมูน" เมนูขนมไทยยอดนิยม ทำเองได้ง่ายนิดเดียว! ) ถ้าอยากให้ข้าวเหนียวมูนมีสีสันก็ให้ใส่สีที่ต้องการลงในน้ำที่ใช้แช่ข้าวเหนียวได้เลย STEP 2 : ทำหน้าสังขยา - ตอกไข่และใส่น้ำตาลมะพร้าวลงในชามผสม ใส่ใบเตยม

 ความทรงจำดีๆที่ไม่มีวันลืม  ดอกๆไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อเรื่อง ความทรงจำ เป็นสัญลักษณ์ของ รักแท้ ขณะที่คู่รักคู่หนึ่งเดินเล่นริมแม่น้ำ หญิงสาวเห็นดอกไม้สีฟ้าสวยงามชูช่อขึ้นอยู่กลางน้ำ ชายหนุ่มจึงกระโดดลงไปเก็บให้ แต่ระหว่างทางกลับนำดอกไม้ขึ้นมา เขาพลาดท่าถูกกระแสน้ำพัดไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะจมหายไป เขาโยนช่อดอกไม้สีฟ้านั้นให้หญิงสาวบนฝั่ง พร้อมกับตะโกนว่า "Forget me not" หญิงสาวทัดดอกฟอร์เก็ตมีน็อตไว้ที่เส้นผมของเธอไปจนวันสุดท้ายที่เธอตาย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเธอไม่เคยลืมเขาเลยสักวัน     

 สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอยู่ม.4 ซึ่งเป็นม.ปลายปีแรก เราเลือกที่จะเรียนสายวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เพราะเราชอบในด้านนี้ แรกๆก็รู้สึกเรียนไม่หนัก งานไม่เยอะ แต่พอเริ่มเรียนไปเรื่อยๆเริ่มรู้พิษของมันแล้วค่ะ5555555เริ่มเรียนเยอะขึ้น หนักขึ้น สอบบ่อย งานก็เยอะด้วยค่ะ แต่เราเลือกแล้วต้องสู้กับมันต่อไปค่ะ เราก็มีเพื่อนสนิทแต่อยู่คนละรร.เลย นางเรียนสายศิลป์-ภาษา เพราะชอบในด้านนั้น แต่ก็ชวนมาเรียนสายนี้แล้ว แต่ก็ไม่มา คงไม่ชอบมั้ง ความฝันเราในอนาคตคือ “ทันตแพทย์” เราใฝ่ฝันมานานมาก อยากทำอาชีพนี้ ก็ตั้งในเรียน ท้อก็หยุดบ้าง หาอะไรทำคลายเครียด

สวัสดีค่ะ เราจะมาเล่าประสบการณ์ ม.4 ในโรงเรียนใหม่ของเราค่ะ ตอนม.3เราเริ่มชอบโรงเรียนหนึ่ง อยากเข้าไปเรียนมาก เราก็ติวหนังสือ ทำข้อสอบ ติวทุกวันเพราะอยากเข้ามาก ใกล้ถึงวันสอบเข้ามาทุกทีเราก็เพิ่มเวลาอ่านหนังสือ อ่านๆ จนถึงวันสอบเราก็พร้อม(มั้ง) เข้าไปในโรงเรียนแบบบ๊องมาก ไม่รู้ที่ไหนเป็นที่ไหน เข้าห้องสอบไปก็ทำข้อสอบ ตอนทำมีอุปสรรคมาขัดขวางคือ!! เราปวดท้องหนักมาก เหงื่อแตกจนแมสเปียก ตั้งสติไม่อยู่เลย เพราะมันตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูกจนเวลาใกล้จะหมด เราทำเกือบไม่ทันมีมั่วบาวข้อ แต่ข้อสอบก็ยากมาก เราว่าาเราติวมาเยอะแล้วนะแต่มันไม่ออกแบบที่เราติวไปเลย ส่วนมากจะเป็นโจทย์ปัญหา เราไม่ค่อยชอบมัน ก็เลยติวไปแต่พวกสมการ แต่ผลออกมาก็ติดค่ะ เราก็ภูมิใจที่ได้เรียนในโรงเรียนที่ชอบ พอโรงเรียนเปิดวันเเรกเราก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าแถวตอนเช้ากันแบบไหน แล้วมีคนประกาศว่า"เข้าสีตามคณะที่ตัวเองอยู่ครับ" ซึ่งเราอยู่สีแดง คณะปาริชาต เราก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ส่วนไหนของแถว เดินๆไปเรื่อยๆเห็นสีแดง แต่ก็อยู่ปนๆกันม.1-ม.6 เราเดินไปเจอเพื่อนคนนึงเหมือนจะอยู่ห้องเดียวกัน เราก็ไปต่อแถว สรุปคือถูกค่ะ เราเข้าแถวถูก55555555